ปัจจุบัน การใช้ฮอร์โมนทดแทนสำหรับสตรีวัยทอง
มีหลายวิธี ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะยาฮอร์โมนทดแทนชนิดรับประทานซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมกันมากที่สุด
การเลือกใช้ฮอร์โมนทดแทนแบบไหนขึ้นกับลักษณะของแต่ละบุคคลโดยมีหลักการเลือกใช้
ดังนี้
- สตรีที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้งสองข้างแล้ว
นิยมให้ฮอร์โมนที่เป็นเอสโตรเจนแต่เพียงอย่างเดียว
- สตรีที่ยังมีมดลูกอยู่จะต้องได้รับยาฮอร์โมนทดแทนรวม
ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน
เพื่อป้องกันเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ซึ่งถ้าเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวแล้วจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกได้
|
สำหรับสตรีที่ผ่าตัดมดลูกออกแล้ว
ไม่จำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน เนื่องจากไม่ต้อง กังวลเกี่ยวกับการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก
ดังนั้น การรับประทานฮอร์โมนทดแทน จึงทานแต่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนแต่เพียงอย่างเดียวทุกวัน
เวลาที่เหมาะแก่การรับประทานยาฮอร์โมนคือ หลังอาหารเย็น หรือ ก่อนนอน
ในกรณีที่ลืมทานยาข้ามวัน
เมื่อนึกขึ้นได้ ให้ทานยาต่อไปตามปกติ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา
ของวันที่ลืมควบกับยาที่ต้องทานตามปกติ ในกรณีที่ยาฮอร์โมนอยู่ในแผงหรือตลับสำเร็จรูป
ก็ให้ ทานยาเดินหน้าต่อไปตามปกติไม่ต้องข้ามเม็ด เนื่องจากเม็ดยาทุกเม็ดมีตัวยาฮอร์โมนเอสโตรเจน
เหมือนกันทุกเม็ด
สำหรับสตรีที่ยังมีมดลูกอยู่ จะมีวิธีใช้ยาอยู่สามแบบ
ขึ้นกับคำแนะนำของแพทย์
1.
แบบที่รับประทานยารอบละ 21 วัน หยุด 7วัน มีเลือดประจำเดือนออกเป็นรอบ
แบบนี้สตรีจะได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน
เป็นเวลา 21 วันต่อเดือน และได้รับฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน ในช่วง 10
วันสุดท้าย จากนั้นก็หยุดยาทั้งสองชนิดพร้อมกันเป็นเวลา 7 วัน หรือได้รับยาฮอร์โมน
เอสโตรเจน เป็นเวลา 25 วันต่อเดือน และได้รับฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน
12 - 14 วันต่อเดือนแล้ว จึงหยุดยาทั้งสองขนิด ภายหลังที่หยุดยาทั้งสองชนิด
มากกว่าร้อยละ 90 ของสตรีที่ยังมีมดลูกอยู่ จะมีเลือดประจำเดือนออกมา
เมื่อครบ 7วันแล้ว ให้เริ่มยาในรอบต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องรอให้เลือด
ประจำเดือนหยุดแต่อย่างใด เมื่อใช้ยาวิธีนี้ไปนานๆ เลือดประจำเดือนอาจมีปริมาณน้อยลง
หรือหมด ลงได้ในที่สุด
การรับประทานยาแบบนี้
เมื่อลืมทานยาข้ามวัน ให้รับประทานยาของวันที่ลืมเมื่อนึกขึ้นได้ต่อไป
ส่วนยาที่จะต้องทานตามปกติในแต่ละวัน ให้เลื่อนไปรับประทานในวันถัดไป
2.
แบบที่รับประทานยารอบละ 28 วัน มีเลือดประจำเดือนออกเป็นรอบ
แบบนี้สตรีจะได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลา
28 วันต่อเดือน และได้รับฮอร์โมนโปรเจสโตรและได้รับฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน
เป็นช่วงเวลา 10 ถึง 14 วัน ซึ่งคล้ายกับแบบที่หนึ่ง โดยสตรีที่มีมดลูกอยู่จะมีประจำเดือนออกมาเป็นรอบ
การใช้ยาแบบนี้ แตกต่างจากแบบที่หนึ่ง ตรงที่ในระหว่างที่มีเลือดประจำเดือนยังคงได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่
ซึ่งจะช่วยทำให้ไม่มีอาการขาดฮอร์โมนในระหว่างที่มีรอบประจำเดือน
ถ้าลืมทานยาข้ามวัน ในวันที่นึกขึ้นได้ให้รับประทานยาต่อไป ตามเดิมไม่ต้องข้ามเม็ดยาที่ลืม
3.
แบบที่รับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน คู่กันทุกวัน
ไม่มีเลือดประจำเดือน
แบบนี้สตรีจะได้รับ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนคู่กันทุกวัน
ตลอดไป การใช้ยาแบบนี้ จะทำให้ระยะยาวไม่มีเลือดประจำเดือน แต่ในระยะเริ่มต้นที่ใช้ยาแบบนี้
ประมาณ 1 - 3 เดือนแรก อาจทำให้สตรีมีเลือดออกกะปริดกะปรอยในปริมาณไม่มากได้
ถ้าลืมทานยานี้
ข้ามวัน เมื่อนึกขึ้นได้ ให้เริ่มรับประทานยาต่อ ไม่ต้องข้ามเม็ดยาที่ลืมทาน
เพราะยาแต่ละเม็ดจะมีตัวยาเหมือนกัน
ถ้าท่านกำลังมีโรคต่อไปนี้หรือเคยเป็นโรคต่อไปนี้
จะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ยาฮอร์โมนทดแทน
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
โดยโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งรังไข่
- มะเร็งที่เยื่อบุโพรงมดลูก
- เลือดออกในสมอง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคเลือด
- โรคตับ
back
to www.waithong.com
|